เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2022 สภาแห่งรัฐของจีนได้ประกาศใช้ “มาตรการทางปกครองสำหรับการสรุปสนธิสัญญา” (ต่อไปนี้เรียกว่า “มาตรการ” 缔结条约管理办法) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2023
ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการสรุปสนธิสัญญา การแบ่งงานระหว่างหน่วยงานของรัฐของจีนในการสรุปสนธิสัญญามีดังนี้
สภาแห่งรัฐจะสรุปสนธิสัญญาและข้อตกลงกับรัฐต่างประเทศ ในฐานะรัฐบาลกลางของจีน
1.สภาประชาชนแห่งชาติและคณะกรรมาธิการสามัญประจำประเทศจีนจะต้องให้สัตยาบันและยกเลิกสนธิสัญญาเฉพาะบางฉบับและข้อตกลงสำคัญที่ทำร่วมกับรัฐต่างประเทศ ในฐานะสภานิติบัญญัติของจีน
2.มาตรการส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่อำนาจของสภาแห่งรัฐ กล่าวคือ วิธีการที่สภาแห่งรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการสรุปสนธิสัญญา
มาตรการดังกล่าวประกอบด้วยมาตราทั้งหมด 36 มาตรา โดยมีบทบัญญัติเด่นๆ ดังต่อไปนี้
1. เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และสภาแห่งรัฐ รัฐบาลท้องถิ่นทุกระดับไม่มีอำนาจในการสรุปสนธิสัญญา
2.กำหนดระยะเวลาเฉพาะสำหรับการดำเนินการต่างๆ เช่น การเริ่มการเจรจาสนธิสัญญา การลงนามในสนธิสัญญา การแสดงอำนาจเต็มที่ การส่งสนธิสัญญาไปยังสภาแห่งรัฐเพื่อตรวจสอบและบันทึก การส่งสนธิสัญญาไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อลงทะเบียนและฝาก , แจ้งกระทรวงการต่างประเทศสำหรับการเตรียมการ ฝากหรือแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารหรือการอนุมัติสาร และแจ้งรัฐบาลของเขตปกครองพิเศษ
3. ในกรณีที่สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับการทูตและการป้องกันประเทศ หรือสนธิสัญญาจำเป็นต้องใช้กับดินแดนทั้งหมดของสาธารณรัฐประชาชนจีนตามลักษณะและบทบัญญัติของสนธิสัญญา สภาแห่งรัฐจะต้องแจ้งให้รัฐบาลของเขตปกครองพิเศษทราบ ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศว่าสนธิสัญญาจะใช้กับเขตปกครองพิเศษ
4.เมื่อสรุปสนธิสัญญาพหุภาคี ให้ขอความเห็นผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศตามลำดับ จากรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและรัฐบาลเขตปกครองพิเศษมาเก๊า หากสนธิสัญญาพหุภาคีระบุว่าภาคีคู่สัญญาไม่จำกัดเพียงรัฐอธิปไตย และตามกฎหมายพื้นฐานของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและกฎหมายพื้นฐานของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงและเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ภูมิภาคมีอำนาจลงนามในสนธิสัญญาพหุภาคี สภาแห่งรัฐไม่จำเป็นต้องขอความเห็นจากรัฐบาลของเขตปกครองพิเศษ